เมษายน 2567
"วันสงกรานต์" มีที่มาจากประเพณีโฮลีหรือการเล่นสาดสีในประเทศอินเดีย และด้วยสยามประเทศในขณะนั้นมีแม่น้ำมาก จึงใช้น้ำแทนสี ช่วยให้คลายร้อนได้ เนื่องจากตรงกับฤดูร้อน และตรงตามปฏิทินจันทรคตินับให้ 13 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย ซึ่งต่อมามีการเปลี่ยนเป็นวันที่ 1 มกราคม ตามปฏิทินสากล และในเดือนนี้ยังเป็น "วันจักรี" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (20 มีนาคม พ.ศ. 2280 — 7 กันยายน พ.ศ. 2352) เป็นต้นราชวงศ์ เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศชาติบ้านเมือง และดำรงไว้ซึ่งประเพณีอันดีนี้ ตามโรงเรียน และสถานที่ราชการจะมีการจัดบอร์ดนิทรรศการ และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษและยังทำให้ครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้ากัน
ปัจจุบันการเรียนรู้ค่อนข้างจะเน้นไปที่การใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น มือถือ หรือ แพ็ด ซึ่งจะดึงดูดเด็กๆ ได้ไม่น้อยเลย แต่ก็จะมีผลเสียตรงมีโอกาสที่สายตาปะทะแสงจากจอซึ่งจะทำให้ประสาทตาเสื่อมเร็วกว่าที่ควรและทำให้เด็กมีสมาธิสั้นมากขึ้นเรื่อย เพื่อชลอและหลีกเลี่ยงผลเสียเหล่านั้น ครูและผู้ปกครองลองหันมาใช้สื่อการสอนที่จับต้องได้สำหรับเตรียมความพร้อมก่อนวัยเข้าโรงเรียน
โดยพื้นฐานการเรียนรู้ของเด็ก จะชอบมองภาพก่อน เพราะสีต่างๆ ที่ตกกระทบเลนส์ดาจะสื่อไปที่สมอง ภาพจำแรกๆ จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ปกครองหรือครูผู้สอนก็จะค่อยๆ ลงในรายละเอียด เช่น สอนว่าอักษรตัวนี้เรียกว่าอะไร และภาพอื่นๆ ที่ใช้อักษรตัวนี้มีอะไรบ้าง และเพื่อเพิ่มปฏิสัมพันธ์ให้มากขึ้นไปอีก อาจจะหาเรื่องราวที่เป็นนิทานเล่าประกอบไปด้วย จะทำให้เกิดการจำแบบมีทิศทางและจำได้นาน เป็นการเตรียมพร้อมให้เด็กๆ นำไปต่อยอดในวิชาอื่นๆ ได้โดยพลัน
"มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท" เป็นกลอนวรรคแรกที่แนะนำให้ออมเงิน เชิงเปรียบเปรยยกตัวอย่างให้เก็บเล็กผสมน้อยก็จะมีเงินมากขึ้นตามลำดับ แต่การจดควบคู่ไปด้วยจะทำให้ผู้เก็บเงินได้วิเคราะห์แยกแยะข้อมูลได้อีกว่ามีเงินเก็บมากขึ้นได้อย่างไรและอาจจะถึงขั้นตั้งเป้าหมายในการเก็บเงินได้ด้วยการจดนี้เอง
และเพื่อวางรากฐานการออมอย่างมั่นคง แนะนำให้ใช้สมุดบันทึกเงินออม หรือ #Cashbook เล่มเล็กๆ นี้ ที่มีรูปแมวน้อยน่ารักมาชวนเด็กๆ เริ่มต้นเป็นเศรษฐีในอนาคตกัน